Posts Tagged :

การก่อสร้าง

การปฏิบัติขณะเทคอนกรีต

การปฏิบัติขณะเทคอนกรีต

600 400 admin

การปฏิบัติขณะเทคอนกรีต

ก่อนเทคอนกรีต จะต้องขออนุมัติก่อนทุกครั้งเพื่อที่ผู้ควบคุมงานจะได้ตรวจสอบความถูกต้องเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อได้รับอนุมัติให้เทคอนกรีตได้แล้วผู้รับเหมาก่อสร้างควรรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด หากทิ้งช่วงนานเกินไปเหล็กอาจถูกเหยียบจนคดงอและเป็นสนิมขุม และแบบหล่ออาจสกปรกขึ้นอีกรอยต่อซึ่งอุดไว้อาจเป็นร่องกว้างขึ้น ในกรณีเช่นนี้ ก่อนจะเทคอนกรีตจะต้องขออนุมัติใหม่อีกครั้งหนึ่งคอนกรีตที่จะนำไปเทจะต้องใช้ส่วนผสมตามที่ได้รับอนุมัติ แต่ถ้าไม่มีการออกแบบปฏิภาคส่วนผสมไว้ก็จะต้องใช้ความสังเกตุความขันเหลวขนาดไหนจึงจะพอดี ควรควบคุมโดยใช้การทดสอบหาค่าการยุบตัว (Slump Test) เป็นครั้งคราว แต่ในทางปฏิบัติอาจจะไม่สามารถควบคุมคอนกรีตปั๊มได้ทุกโม่ฉะนั้น การสังเกตด้วยตามีความจำเป็นมาก ผู้ควบคุมงานควรสังเกตดูว่า คอนกรีตที่มีความข้นเหลวพอดีมีลักษณะอย่างไร หากรู้สึกว่าเหลวเกินไปจะต้องรีบสั่งให้ทำการทดสอบหาค่าการยุบตัวทันที ถ้าปรากฎว่าคอนกรีตเหลวกว่าที่กำหนดไว้มาก อาจแก้ไขคอนกรีตปั๊มโม่นั้นได้โดยการเพิ่มปริมาณปูนชีเมนต์เพื่อให้อัตราส่วนน้ำ : ปูนชิเมนต์คงเดิม เพราะอัตราส่วนน้ำ : ปูนซีเมนต์ ยิ่งสูงเท่าไร กำลังของคอนกรีตก็ยิ่งต่ำลงเท่านั้น หรืออีกนัยหนึ่งสำหรับคอนกรีตที่มีปูนซีเมนต์ ทราย และหินคงที่ในส่วนปฏิภาคหนึ่งๆ ปริมาณน้ำจะเป็นตัวกำหนดกำลังของคอนกรีต กล่าวคือ น้ำยิ่งมากหรือคอนกรีตยิ่งเหลว กำลังของคอนกรีตจะยิ่งลดลงตามลำดับเมื่อนำคอนกรีตไปเทลงแบบเรียบร้อยแล้วจะต้องทำให้คอนกรีตนั้นแน่นด้วยเครื่องสั่นคอนกรีต (Vibrator) การสั่นต้องกระทำให้ถูกวิธี ไม่ควรจี้เครื่องสั่นให้ถูกเหล็กเสริมมากนักและสั่นแต่พอสมควร ไม่ควรสั่นมากเกินไปจนน้ำปูนลอยขึ้นมาเยิ้มบนผิว การที่น้ำเอ่อขึ้นมาเช่นนี้เรียกว่า การเยิ้ม (Bleeding) และถ้าหากใช้เครื่องสั่นเพียงเล็กน้อยแต่เกิดการเยิ้มแสดงว่าคอนกรีตเหลวเกินไป เป็นเหตุให้เกิดการแยกแยะ (Segregation) ขึ้น ซึ่งจะทำให้ได้คอนกรีตที่มีกำลังต่ำการเทคอนกรีตสำหรับองค์อาคารขนาดใหญ่ เช่น คานขนาด 0.50 x 1.50 x 15.00เมตร ต้องจัดลำดับการเทให้ดี เพราะกว่าจะเทเสร็จหมดทั้งคานก็กินเวลาหลายชั่วโมง คอนกรีตซึ่งเทในตอนต้นจะก่อตัวขั้นแรกไปแล้วฉะนั้นการใช้เครื่องสั่นคอนกรีตต้องกระทำด้วยความระวังอย่างมาก เช่น สั่นไปถูกเหล็กเสริมเข้ามากๆ ความสั่นสะเทือนจะไปสู่คอนกรีตที่เพิ่งก่อตัวอาจทำให้เกิดการร้าวภายใน และในบางครั้ง เมื่อคอนกรีตแข็งตัวแล้วรอยร้าวเหล่านี้อาจปรากฏถึงภายนอกจนมองเห็น ได้อย่างชัดเจน การเทคอนกรีตคานขนาดใหญ่เช่นนี้ไม่ควรเทเป็นชั้นๆ แต่ควรจะเทให้เสร็จเป็นตอน ๆ เช่น เทครั้งละครึ่งคานโดยหยุดคอนกรีต ณ ที่ที่แรงเฉือนน้อยที่สุดคือ กึ่งกลางคาน และหยุดเป็นแนวตั้งฉากกับแกนคานเพื่อที่คอนกร็ตรับแรงอัดได้เต็มที่ จากนั้นทิ้งไว้หนึ่งวันแล้วจึงเทต่อ ก่อนเทจะต้องทำผิวให้สะอาดแล้วราดด้วยน้ำปูนชันๆ หรือทาด้วย Bonding Agent ในกรณีที่ทิ้งไว้หลายวันควรทำผิวหน้าของคอนกรีตให้หยาบด้วยสำหรับคานขนาดไม่ใหญ่นัก ควรเทให้เต็มช่วงคือ หยุดในเสาเพื่อไม่ให้เกิดจุดอ่อน

แต่ถ้าไม่สามารถเทได้ตลอดก็ควรหยุดเทที่กึ่งกลางคานในระนาบตั้งฉากกับแกน เช่นเดียวกับคานขนาดใหญ่ดังที่กล่าวแล้วข้างต้นสำหรับแผ่นพื้นก็เช่นเดียวกันควรหยุดเทคอนกรีต ณ ที่รองรับคือคาน โดยให้เลยเข้าไปในคานเล็กน้อย แต่ถ้าไม่สามารถจะหยุดที่คานได้ควรให้หยุดที่กึ่งกลางแผ่นพื้นให้ระนาบตั้งฉากกับแกนของแผ่นพื้นโดยใช้ไม้กั้นให้เรียบร้อย และการเทคอนกรีตต่อให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับคาน วิธีดีที่สุดคือ เทพื้นพร้อมกับคานเป็นเนื้อเดียวกัน

เทปูนชั้นใต้ดิน

การเตรียมการเทคอนกรีตห้องใต้ดิน

600 400 admin

การเตรียมการเทคอนกรีตห้องใต้ดิน

การใช้ Sheet Pile

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับห้องใต้ดินคือ จะป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมบริเวณที่จะเทคอนกรีตอย่างไร และเมื่อเสร็จแล้วจะป้องกันไม่ให้น้ำซึมเช้าห้องใต้ดินได้อย่างไร ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเตรียมการก่อนเทคอนกรีตเป็นส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่การชุดดินให้ได้ระดับ ถ้าสถานที่ก่อสร้างไม่กว้างขวางจะต้องตอกเข็มพืด (Sheet Pile)ที่ลึกพอที่จะกันดินไม่ให้พัง ควรใช้ Sheet Pile เหล็กชนิดล็อคกันในตัว และต้องใช้ค้ำยันช่วยสำหรับเรื่องน้ำถ้าเป็นภาคกลางเช่น

บริเวณกรุงเทพมหานครมักจะไม่มีปัญหากับน้ำใต้ดินเพราะดิน 15 เมตรแรกเป็นดินเหนียวน้ำซึมได้ยาก ฉะนั้น ถ้าป้องกันไม่ให้น้ำฝนหรือน้ำจากผิวดินไหลเข้าไปแล้วจะไม่มีอุปสรรคในการทำงาน แต่ก็ควรจะเตรียมเครื่องสูบน้ำสำรองที่จะใช้ได้ทันทีที่เกิดความจำเป็นเช่นฝนตกหนัก อย่างไรก็ดี สิ่งที่จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษก็คือ การขุดดินลึกอาจทำให้ดินบริเวณข้างเคียงโดยรอบยุบตัวเพราะน้ำในดินซึมผ่าน Sheet pile เข้ามา ทำให้สาธารณูปโภค เช่นถนน ท่อประปา และแม้แต่อาคารที่ใช้เสาเข็มสั้นๆหรือพื้นวางบนดินชำรุดเสียหายได้ในกรณีของดินต่างจังหวัด เช่น ดินปนทรายในภาคให้ดำเนินการต่อไปเหนือ หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระดับน้ำใต้ดินมักจะอยู่ลึกเกินกว่าระดับห้องใต้ดินนอกจากจะพบตาน้ำหรือทางน้ำไหลใต้ดิน ในกรณีเช่นนั้น นอกจากจะต้องมีเครื่องสูบน้ำแล้วจะต้องทำการเบนแนวทางน้ำนั้นให้ไหลไปทางอื่นด้วย มิฉะนั้น จะไม่สามารถสูบน้ำได้ทัน ผู้ควบคุมงานจะต้องตรวจสอบปริมาณและขนาดความสามารถของเครื่องสูบน้ำว่าจะสามารถสูบออกได้ทันหรือไม่ก่อนที่จะอนุมัติเมื่อเตรียมการขั้นต้นเสร็จแล้ว ขั้นต่อไป คือ การเตรียมการเพื่อเทคอนกรีต ปกติสำหรับพื้นและผนังห้องใต้ดินวิศวกรจะกำหนดให้มีแผ่นกันน้ำ (Water-proofing Membrane) คั่นระหว่างดินกับคอนกรีต แผ่นกันน้ำนี้อาจเป็นแผ่นสำเร็จรูปหรือใช้วิธีฉาบหลายๆชั้นก็ได้ ฉะนั้น จะต้องตรวจสอบคุณภาพให้ตรงกับข้อกำหนดและที่ได้รับการอนุมัติแล้ว สำหรับแผ่นพื้นปกติจะเทคอนกรีตที่มีความชันเหลวต่ำผสมน้ำยากันซึม เพื่อให้การชาบซึมในเนื้อคอนกรีดน้อยที่สุด ถ้าเป็นผนังจะเทคอนกรีตก่อนแล้วจึงฉาบ หรือปูแผ่นกันน้ำภายนอกทีหลัง ที่สำคัญที่สุดอยู่ที่รอยต่อคอนกรีต เช่น ระหว่างผนังกับพื้น หรือพื้นกับพื้น ในกรณีที่ไม่สามารถเทต่อเนื่องกันได้ ฉะนั้น ผู้รับเหมาก่อสร้างจะต้องทำลำดับการเทคอนกรีตเสนอวิศวกรเพื่อพิจารณาก่อน เมื่อได้รับอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วจึงจะดำเนินการเทคอนกรีตได้ ผู้ควบคุมงานจะต้องดูแลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ทุกชนิดที่จำเป็นให้มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการและเทคอน

กรีตตามแผนการที่วางไว้ อย่าลืมทุกแห่งที่จะมีการหยุดเทคอนกรีตห้องใต้ดินจะต้องใส่แถบกั้นน้ำ (Water Stop) เสมอ ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงแผนดำเนินงานจะต้องขออนุมัติใหม่ทุกครั้ง แถบกั้นน้ำปกติมีหลายชนิดและขนาด ซึ่งเหมาะกับการใช้งานแต่ละอย่าง ผู้ควบคุมงานจะต้องดูแลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างใช้แถบ

กั้นน้ำที่มีชนิด ขนาด และคุณภาพตรงตามที่ได้รับอนุมัติแล้วเท่านั้น การยึดแถบกั้นน้ำจะต้องถี่มากๆ เช่น ทุกๆ ระยะ 150-200 มิลลิเมตร มิฉะนั้นอาจ พับขณะเทคอนกรีตได้ซึ่งจะกลับกลายเป็นจุดที่น้ำซึมได้ง่ายในการก่อสร้างห้องใต้ดินลึกๆโดยเฉพาะถ้าเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีฐานรากหนาๆ จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษนับตั้งแต่การตอกและยึดเข็มพืด (Sheet Pile) จนถึงขั้นตอนการขุดดิน การขุดดินที่ระดับลึกมากๆด้วยวิธีตัด

เป็นขั้นให้มีความลาดเอียงน้อยๆโดยไม่ใช้เข็มพืดนั้นนับว่าเสี่ยงมาก โดยเฉพาะถ้าความลึกเกินความสูงวิกฤติ (Critical Height) สำหรับดินในบริเวณกรุงเทพมหานครซึ่งมีดินอ่อนและเหลวหนาประมาณ 12 เมตร จะมีความสูงวิกฤติอยู่ระหว่าง 3 เมตร ฉะนั้น หากระดับดินที่จะขุดอยู่ลึกมากกว่านี้ หรือแม้จะต่ำกว่าเล็กน้อยก็ควรจะใช้เข็มพืดป้องกันดินพัง และป้องกันการเคลื่อนตัวของดิน ซึ่งอาจทำให้เสาเข็มเอนหรือหัก หรือทำอาคารข้างเคียงเสียหายได้ปกติวิศวกรของผู้รับเหมาก่อสร้างจะเป็นผู้คำนวณออกแบบขนาดและความยาวของ Sheet Pile ตลอดจนการค้ำยัน ส่วนวิศวกรผู้รับผิดชอบซึ่งปกติได้แก่วิศวกรที่ปรึกษา จะเป็นผู้ตรวจและอนุมัติ ผู้ควบคุมงานจะต้องดูแลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างปฏิบัติตามแบบและขั้นตอนการทำงานที่ได้รับอนุมัติแล้วอย่างเคร่งครัด จะมีการดัดแปลงโดยมิได้รับอนุญาตไม่ได้เป็นอันขาด สิ่งที่จะต้องกระทำในการควบคุมงาน คือ

  1. ตรวจสอบชนิด ขนาด ความหนาและความยาวของเข็มพืด (Sheet Pile)

  2. ดูการตอกหรือกด เข็มพีด ให้ดิ่ง และInterlock กันอย่างแน่นหนา

  3. ตรวจสอบตำแหน่งของเข็มพืดโดยสม่ำเสมอว่ามีการเคลื่อนตัวบ้างหรือไม่ โดยเฉพาะขณะขุดดินลึกๆ จะต้องตรวจสอบทั้งตำแหน่งและความได้ดิ่งทุกวัน หากพบว่ามีการเคลื่อนตัวเพียงเล็กน้อยจะต้องรีบรายงานวิศวกรผู้รับผิดชอบทันที การตรวจสอบความดิ่งควรใช้เครื่องมือวัดเช่น Inclimometer ซึ่งมีความไวเป็นพิเศษสามารถบันทึกความเอียงของเข็มพืดแม้เพียงเล็กน้อยได้

  4. ตรวจการขุดดินให้ถูกขั้นตอนตามที่ได้รับอนุมัติ ระวังอย่าให้มีการข้ามขั้นตอนเป็นอันขาด เช่น ขุดดินรวดเดียวลึก 4 เมตร(ดินกรุงเทพฯ) โดยยังไม่ทันทำค้ำยัน อาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงได้

การขุดดินลึกๆ ในบริเวณที่เป็นชั้นดินอ่อนส่วนมากมักจะดำเนินตามขั้นตอนดังนี้

   ขั้นที่ 1 – ตอกเข็มพืดตามแบบ

   ขั้นที่ 2 – เปิดหน้าดินทั่วไปที่ระดับตื้นๆเช่น ไม่เกิน 1.50 เมตร

   ขั้นที่ 3 – ทำค้ำยันและคานยึดเข็มพืด (Bracing และ Waling) ระดับที่ 1

   ชั้นที่ 4 – ขุดดินถึงระดับที่ 2 ถ้าจะให้ดีควร Preload เพื่อลดการเคลื่อนตัวของเข็มพืดให้เหลือน้อยที่สุด

   ชั้นที่ 5 – ทำค้ำยันและคานยึดระดับที่ 2

   ชั้นที่ 6 – ขุดดินถึงระดับที่ 3

   ขั้นที่ 7 – ทำค้ำยันและคานยึดระดับที่ 3 และทำเช่นนี้ต่อๆไป จำนวนชั้นของค้ำยันขึ้นอยู่กับลักษณะและความลึกของดินที่ขุด

การถอน Sheet Pile ก็เช่นเดียวกัน จะต้องได้รับอนุมัติทุกขั้นตอน เพราะในบางกรณีไม่อาจยอมให้ถอนได้ถ้าเห็นว่าเป็นการเสี่ยงเกินไป บางครั้งจำเป็นต้องทิ้งทั้ง Sheet Pile และเหล็กค้ำยันไว้ในคอนกรีตก็มีในกรณีที่ต้องการทำห้องใต้ดินหลาย ๆชั้นการใช้ Sheet pile เพื่อป้องกันดินพัง และดินเคลื่อนตัวอาจไม่ได้ผลหรือราคาสูงมาก จำเป็นต้องใช้วิธีอื่น เช่น Diaphragm Wall หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Slurry Wall หรือระบบ Conti-guous Piles ซึ่งโยงไปถึงการก่อสร้างโดยวิธีทำพื้นห้องใต้ดินชั้นบนสุดก่อนแล้วจึงค่อย ๆ สร้างลงไปทีละชั้นหรือสองชั้น จนถึงฐานรากเป็นอันดับสุดท้ายของการก่อสร้างใต้ดิน (Top-down Construction) วิธีเหล่านี้ต้องใช้เทคนิคพิเศษซึ่งผู้ควบคุมงานจะต้องศึกษาจากวิศวกรผู้ออกแบบให้เข้าใจถึงระบบและวิธีการก่อสร้างโดยละเอียดอย่างถ่องแท้เสียก่อน และควบคุมดูแลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างปฏิบัติตามแผนงานที่ได้รับอนุมัติโดยเคร่งครัด

การใช้ Jet Grouting

วิธีป้องกันดินพังขณะขุดดินลึกๆ อีกวิธีหนึ่งคือวิธีอัดน้ำปูนเข้าไปในดิน (JetGrouting)โดยเจาะดินเป็นรูเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 40 มม.ห่างกันประมาณ 1.50 เมตร ส่วนความลึกของรูเจาะขึ้นอยู่กับความลึกของดินที่จะขุด ปกติจะไม่เกิน 8 เมตร เพราะถ้าลึกกว่านั้นราคาจะสูงกว่าการใช้เข็มพืด (Sheet Pile) มาก เมื่อเจาะดินจนได้รูที่ลึกตามต้องการแล้ว จึงอัดน้ำปูนด้วยความดันสูงประมาณ 200 บาร์” (Bar)โดยอัดไล่ตั้งแต่ข้างล้างขึ้นข้างบนจนเต็ม จะแท่งปูนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.60 เมตร จากนั้น ก็ทำการอัดฉีดรูถัดมา ก็จะได้เป็นกำแพงหนา 1.60 เมตร หากจะขุดดินก็อาจทำการเจาะเป็นกำแพง 2 หรือ 3 หรือ 4 ชั้นก็ได้ ตามแต่วิศวกรจะออกแบบมาข้อควรระวัง ก็คือขณะที่ทำการอัดน้ำปูน (Grout) ด้วยแรงดันถึง 200 บาร์* น้ำปูนจะแทรกดินทำให้ดินปูดขึ้นมาและดันออกด้านช้างด้วย นอกจากนั้นน้ำปูนเองก็อาจจะไหลซึมเข้าไปในบริเวณข้างเคียง ทำให้เกิดความ

เสียหายต่อสิ่งก่อสร้างข้างเคียง เช่น รั้ว เขื่อนและอาคารเล็กๆ เสียหายได้ ทำให้สภาพแวดล้อมของดินเสียไปได้ ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องหมั่นสังเกตอยู่เสมอ หากพบสิ่งผิดปกติ เช่น น้ำปูนไปปูดขึ้นในที่ที่ไม่ต้องการ หรือรั้วมีอาการเริ่มสั่งหยุดงานทันทีและรีบหาวิธีแก้ไข

การเตรียมตัวก่อนเทคอนกรีต

การเตรียมการก่อนเทคอนกรีต

600 400 admin

     ก่อนจะถึงขั้นงานเทคอนกรีตผู้ควบคุมงานจะต้องตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้อย่างละเอียดคือแบบหล่อ ผู้ควบคุมงานจะต้องตรวจดูความเรียบร้อยก่อนที่จะอนุญาตให้ผูกเหล็กเสริม แบบหล่อจะต้องมีขนาดภายในเท่ากับหน้าตัดขององค์อาคารที่กำหนดไว้ในแบบพอดี ถ้าปรากฎว่าขนาดคานเล็กกว่ากำหนดจะทำให้ส่วนปลอดภัยของคาน

     นั้นลดลง หรือถ้าคานลึกกว่าที่ระบุในแบบอาจกระทบต่อการติดวงกบหน้าต่าง เป็นต้น วัสดุที่ใช้ทำแบบหล่อจะต้องเลือกใช้ชนิดที่เมื่อถูกน้ำแลัวไม่พองบวมหรือเปลี่ยนรูป รอยต่อของแบบจะต้องยาให้ดีไม่ให้น้ำปูนรั่ว อาจใช้แผ่นสังกะสีตีตามรอยต่อ หรืออุดด้วยปูนทราย หรือ วัสดุอื่นที่เหมาะสม ถ้าเป็นคอนกรีตเปลือยและสถาปนิกได้กำหนดชนิดวัสดุ และรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ร่องเพื่อให้ปรากฏบนผิวคอนกรีตหลังถอดแบบแล้ว ผู้ควบคุมงานจะต้องดูแลให้เป็นไปตามนั้นด้วย การชะโลมแบบหล่อด้วยน้ำมัน หรือสารเคมีสำหรับใช้ทาแบบเพื่อป้อง

     กันมิให้คอนกรีตติดแน่นกับแบบหล่อ จะต้องใช้ในปริมาณพอสมควร ถ้ามากเกินไปคนงานมักเหยียบย่ำและเปื้อนเหล็กเสริมทำให้การยึดหน่วงระหว่างคอนกรีตกับเหล็กเสียไปได้มากและน้ำมันหรือน้ำยาที่ใช้ทาแบบหล่อนั้นก็จะต้องเลือกชนิดที่ไม่เป็นอันตรายต่อคอนกรีตหรือปูนฉาบ เช่น บางอย่างจะติดผิวคอนกรีตจนทาสีไม่ติด เป็นต้น หลังจากนั้นต้องตรวจสอบแนวราบ แนวดิ่งและมุมเอียง ตลอดจนระดับของแบบหล่ออย่างละเอียด จะต้องเผื่อด้วยว่าจะมีการเทปูนทรายทับหน้า และผิวทำด้วยอะไร เช่น หินขัด ปูกระเบื้องเซรามิค กระเบื้องยาง หรือพรม ซึ่งแต่ละชนิดความหนาจะไม่เท่ากัน จริงๆ แล้วควรทำระดับด้วยกล้องระดับ ไม่ควรใช้ระบบสายยาง เพราะมีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย และการผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจมีผลกระทบต่อสิ่งอื่นๆ ได้มาก เช่น ระยะสูงจากพื้นถึงเพดานน้อยกว่าที่กำหนดในกฎหมายอาจเกิดปัญหาในการออกใบอนุญาตใช้งาน เป็นตัน ยิ่งกว่านั้น

     หากพื้นหนาเกินไปมากๆ จะทำให้ส่วนปลอดภัยของอาคารลดลงทั้งโครงสร้างและฐานรากเพราะต้องรับน้ำหนักบรรทุกเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นต้องดูแลค้ำยันของแบบหล่อให้แข็งแรง และการวางค่ำยันบนดินต้องกระทำด้วยความระมัดระวังดังที่เคยกล่าวมาแล้ว

Sannki ปั๊มคอนกรีต

ปั๊มคอนกรีต เครื่องมือช่วยการเทปูนในพื้นที่เฉพาะ

600 400 admin

     ปั๊มคอนกรีตเป็นเครื่องจักรประเภทหนึ่งที่ใช้ในการถ่ายโอนคอนกรีตจากรถผสมไปยังตำแหน่งเฉพาะ มักใช้ในโครงการก่อสร้างเพื่อเทคอนกรีตลงในแบบหรือแม่พิมพ์ที่ต้องการ ปั๊มคอนกรีตประกอบด้วยปั๊มและสายยางที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายคอนกรีตจากรถบรรทุกไปยังตำแหน่งที่ต้องการ

     มีประโยชน์หลายประการในการใช้ปั๊มคอนกรีตในโครงการก่อสร้าง ข้อดีอย่างหนึ่งคือเร็วกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการเทคอนกรีตแบบดั้งเดิมมาก การใช้ปั๊มทำให้สามารถวางคอนกรีตได้ตรงจุดที่ต้องการโดยไม่ต้องใช้แรงงานคน สิ่งนี้สามารถประหยัดเวลาและลดจำนวนคนงานที่ต้องใช้ในสถานที่ก่อสร้าง

     ปั๊มคอนกรีตยังมีความแม่นยำและแม่นยำกว่าวิธีการแบบเดิมๆ ช่วยให้สามารถวางคอนกรีตได้อย่างแม่นยำ ทำให้มั่นใจได้ว่ามีการกระจายอย่างสม่ำเสมอและมีรูปร่างที่เหมาะสม นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับโครงการที่ต้องการความแม่นยำในระดับสูง เช่น เมื่อสร้างสะพานหรือโครงสร้างขนาดใหญ่

     นอกจากนี้ ปั๊มคอนกรีตยังปลอดภัยกว่าวิธีดั้งเดิมมาก ช่วยลดความจำเป็นของพนักงานในการจัดการกับถุงคอนกรีตที่มีน้ำหนักมาก ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังใช้แรงงานมากน้อยกว่ามาก ซึ่งสามารถช่วยลดความเมื่อยล้าและปรับปรุงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน

     โดยรวมแล้วคอนกรีตปั๊มเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง เร็วกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า และปลอดภัยกว่าวิธีการแบบเดิม และช่วยให้วางคอนกรีตได้แม่นยำและแม่นยำยิ่งขึ้น

 

ผสมคอนกรีต

ปัญหาที่อาจจะเกิดระหว่างผู้รับเหมาก่อสร้างกับผู้ควบคุมงาน

600 400 admin

     ปัญหาหรือข้อขัดแย้งในที่นี้ หมายถึงระหว่างผู้รับเหมาก่อสร้างกับผู้ควบคุมงาน ในกรณีที่แบบขัดแย้งกันหรือข้อกำหนด (Specifications) ไม่ตรงกับที่ระบุในแบบ หรือรายละเอียดในข้อกำหนดขัดแย้งกันเอง จะต้องส่งเรื่องให้ผู้ออกแบบเป็นผู้ตัดสิน แต่ในเรื่องของความพอดีทางหลักวิชาฝีมือและหลักปฏิบัติมักจะเกิดความขัดแย้งกันอยู่เสมอ เช่น สนิมเหล็กแค่ไหนจึงจะยอมรับได้ แค่ไหนต้องใช้กระดทรายขัดออก แค่ไหนต้องใช้พ่นด้วยทราย (Sand Blast) หรือแค่ไหนจะต้องรื้อทิ้ง หรือส่วนผสมคอนกรีตขนาดไหนพอดี ขนาดไหนเหลวหรือขั้นเกินไป แค่ไหนจะยอมให้ใช้ได้แค่ไหนให้เททิ้ง การผูกเหล็กผิดพลาด ขนาดไหนจึงจะแก้ไขด้วยการเสริมเหล็กเพิ่มเติมหรือขนาดไหนจะต้องรื้อออกแล้วทำใหม่ เช่น เดียวกับแบบหล่อจะให้แน่นสนิทเท่าใด หรือชำรุดมากน้อยเพียงใดจึงจะอยู่ในเกณฑ์ที่จะยอมรับได้ เป็นต้น ยังมีข้อขัดแย้งทำนองนี้อีกมาก ซึ่งผู้ควบคุมงานจะต้องใช้วิจารณญาณของตนเองในการตัดสินใจสำหรับผู้ควบคุมงานที่ยังมีประสบการณ์น้อยอาจถือหลักกว้างๆ ได้ดังนี้

     1. ถ้าเกี่ยวกับโครงสร้าง ให้ถือหลักว่าต้องแข็งแรงสามารถรับน้ำหนักบรรทุกได้ตามที่ออกแบบไว้ หากมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยให้เสริมความแข็งแรงเท่าที่เห็นสมควร เช่น ตัดเหล็กสั้นเกินไปในจุดที่ไม่วิกฤติก็อาจสั่งให้เสริมทาบต่อให้ได้ความยาวที่ต้องการ หรือผสมคอนกรีตนานเกินกำหนดเพียงเล็กน้อยโดยที่ยังอยู่ในสภาพดีก็อาจยอมให้ใช่ได้ หรือ ให้เพิ่มน้ำปูนเล็กน้อยให้มีอัตราส่วนน้ำ : ปูนชิเมนต์เท่าเดิม แต่ถ้าไม่แน่ใจจะต้องปรึกษาวิศวกรผู้รับผิดชอบทุกครั้ง

     2. ถ้าเกี่ยวกับความละเอียดประณีตและความสวยงาม จะต้องใช้สามัญสำนึกเป็นเกณฑ์ เช่น คอนกรีตใต้ท้องพื้นที่มีฝ้าจะไม่เรียบร้อยบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเป็นผนังคอนกรีตเปลือยจะยอมให้พรุนหรือคดได้เพียงเล็กน้อยเท่าที่ดูแล้วไม่น่าเกลียดระดับสายตาที่สังเกตเห็นได้ง่าย อาจจะต้องแต่ถ้าอยู่ในให้ฉาบปูน แต่ถ้าสถาปนิกต้องการแสดงลายไม้แบบก็อาจจะต้องถึงกับทุบทิ้งและหล่อใหม่ในกรณีเช่นนี้ควรจะปรึกษาสถาปนิกผู้ออกแบบและกรรมการตรวจการจ้าง หรือเจ้าของโครงการ หรือทั้งสามฝ่ายแล้วแต่กรณี

     3. ในกรณีที่ไม่เกี่ยวกับความแข็งแรงของโครงสร้าง หรือความสวยงาม แต่เกี่ยวกับการใช้งาน ก็ให้ถือหลักว่าเมื่อเสร็จแล้วจะต้องใช้งานได้ดีตามวัตถุประสงค์ทุกประการ เช่น ผนังปล่องลิฟท์ภายในคดแต่ไม่เป็นอุปสรรคในการติดตั้งและใช้งานของลิฟต์แล้วก็น่าจะยอมให้ทิ้งไว้เช่นนั้นได้ ในทางตรงกันข้ามหากเป็นอุปสรรคก็จะต้องสกัดหรือทุบออก หรือ การทำระดับแผ่นพื้นดาดฟ้าหรือห้องน้ำผิดจนทำให้น้ำขังก็จะยอมไม่ได้ แต่ถ้าเป็นพื้นช่วงล่างๆ ที่เมื่อไม่วัดกันจริง ๆ แล้วจะไม่รู้สึกก็ควรจะยอมรับได้ เป็นต้น อย่างไรก็ดี ความผิดพลาดเหล่านี้ควรจะเกิดขึ้นโดยไม่มีเจตนาจะให้ผิด เมื่อแก้ไขแล้วครั้งหนึ่งก็ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง

ขั้นตอนการปฏิบัติงานของผู้ควบคุมงานก่อสร้าง

ขั้นตอนการปฏิบัติงานของผู้ควบคุมงานก่อสร้าง

600 400 admin

     เรื่องขั้นตอนการทำงานนี้ หากเกิดการผิดพลาดมักทำให้เกิดความล่าช้า สับสน หรือแม้แต่อาจจะเกิดการวิบัติก็ได้ ตามที่ได้กล่าวแล้วว่า ในการก่อสร้างอาคาร จะมีบุคคลหลายฝ่ายที่ทำงานพร้อมๆ กัน นับตั้งแต่เจ้าของโครงการ ที่ปรึกษาของเจ้าของโครงการวิศวกรคิดราคา (Value Engineer) ผู้ออกแบบทางสถาปัตยกรรม และวิศวกรรม ทุกระบบผู้รับเหมาใหญ่ และผู้รับเหมาย่อย (เช่นงาน ระบบต่าง ๆ) ผู้ควบคุมงาน ฝ่ายการตลาด ฯลฯ ฉะนั้น การประสานงานเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งผู้ที่ทำน้าที่บริหารโครงการ ( Project Manager) จะต้องจัดวางรูปแบบของการทำงานให้เป็นระบบ เช่น ผู้รับเหมาหยิบยกปัญหาขึ้น ควรจะปฏิบัติอย่างไร

     ทั่วไปจะถือหลักว่าผู้ควบคุมงานเป็นแกนกลางจึงต้องรายงานต่อผู้ควบคุมงานก่อน ผู้ควบคุมงานจะพิจารณาขั้นต้นก่อนว่าเป็นปัญหาที่ตัดสินใจเองได้หรือไม่ ถ้าเป็นปัญหาใหญ่จะต้องเสนอต่อผู้ออกแบบหรือเจ้าของโครงการ แล้วแต่กรณี หากเป็นปัญหาของผู้ออกแบบใดก็จัดส่งเรื่องขึ้นไปขอความเห็นชอบจากผู้ออกแบบที่รับผิดชอบ อาจเป็นสถาปนิก วิศวกรโครงสร้าง หรือวิศวกรงานระบบ จากนั้นก็รอคำตอบ ซึ่งปกติผู้เกี่ยวข้องควรจะตอบภายใน 7-14 วัน จากนั้นจึงนำคำตอบนั้นไปแจ้งต่อผู้รับเหมาก่อสร้างต่อไปในกรณีที่มีการแก้ไขที่ใดที่หนึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อต้านอื่นๆ บางครั้งจึงต้องมีการพิจารณาร่วมกัน และถ้าการแก้ไขนั้นๆ จะต้องมีการเพิ่มหรือลดวงเงิน จะต้องแจ้งเจ้าของโครงการทุกครั้ง หากเจ้าของโครงการไม่ยอมเพิ่มเงิน ก็จะต้องหามาตรการต่อไป จะเห็นว่าหากจ่ายงานผิดขั้นตอนเมื่อไร จะเกิดความยุ่งยากสับสนสำหรับงานก่อสร้างขึ้นทันที อันนำมาสู่ความล่าช้าของงานก่อสร้าง เพราะอาจต้องส่งกลับไปกลับมา หรือไม่ได้รับคำตอบที่ถูกต้อง หรือต้องทำงานหลายครั้งวิธีดีที่สุดคือจัดประชุมร่วมกันและทำความตกลงให้เข้าใจตรงกันทุกฝ่ายก่อนที่จะลงมือทำงาน ในกรณีขออนุมัติวัสดุก็เช่นเดียวกันเมื่อผู้รับเหมาก่อสร้าง เสนอวัสดุมายังผู้ควบคุมงาน ก่อนอื่นต้องตรวจสอบดูว่าวัสดุที่ขออนุมัติให้นั้น ตรงตามที่ระบุในข้อกำหนดหรือไม่เพียงใด แล้วจึงเสนอความเห็นไปยังผู้ออกแบบเพื่อพิจารณา เมื่อผู้ออกแบบพิจารณาแล้วเห็นชอบด้วยก็จะบันทึกตอบเป็นลายลักษณ์อักษร และหากมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมก็จะเขียนลงมาด้วย แล้วส่งกลับไปยังผู้ควบคุมงานซึ่งจะจัดส่งไปยังเจ้าของโครงการหรือกรรมการตรวจการจ้างหนึ่งชุด ผู้รับเหมาก่อสร้างหนึ่งชุด ผู้ควบคุมงานเองเก็บไว้หนึ่งชุด ส่งกลับไปที่ผู้ออกแบบหนึ่งชุด เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน อีกหนึ่งชุดเก็บไว้ที่สถานที่ก่อสร้างสำหรับใช้งานจำนวนชุดอาจมากหรือน้อยกว่านี้แล้วแต่ความต้องการ เช่นเดียวกับการขออนุมัติ Shop Drawing ผู้ควบคุมงานจะตรวจสอบในชั้นแรกก่อน หากเห็นว่าผิดมากก็จะส่งคืนไปยังผู้รับเหมาก่อสร้างให้แก้แล้วส่งมาใหม่ถ้าผิดเล็กน้อยก็แก้ให้จนถูกต้องเรียบร้อยแล้วจึงจะส่งไปยังผู้ออกแบบตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนและสายงานเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมเพราะแต่ละโครงการมีองค์กรไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะกล่าวข้างต้นราชการกับเอกชนมักแตกต่างกันมาก แต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานชั่วคราวเช่น งาน Sheet Pile เป็นหน้าที่ของฝ่ายที่ปรึกษาหรือ ผู้ควบคุมงานโดยตรงที่จะพิจารณาอนุมัติ

งานก่อสร้างและผู้รับเหมา

การปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน ผู้รับเหมาก่อสร้าง และเจ้าของโครงการ

1024 512 admin

     วิธีการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน ผู้รับเหมาก่อสร้าง และเจ้าของโครงการ หรือ คณะกรรมการตรวจการจ้าง

     เมื่อทราบหน้าที่ของแต่ละฝ่ายแล้ว ก็ควรพิจารณาว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติงานร่วมกันอย่างไรจึงจะได้ผลสมความมุ่งหมาย ในการปฏิบัติงานก่อสร้างทุกแห่งมักพบปัญหาต่างๆเกิดขึ้นเสมอ เช่น แบบขัดแย้งกัน คุณภาพวัสดุไม่ตรงตามที่ระบุในข้อกำหนด ผู้รับเหมาไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือหลักวิชาช่าง ผู้ควบคุมงานและผู้รับเหมามีความเห็นชัดแย้งกัน เป็นต้น ฉะนั้น เพื่อให้งานก่อสร้างดำเนินไปด้วยดี ควรจัดให้มีการประชุมพบกันเป็นประจำระหว่างเจ้าของโครงการหรือคณะกรรมการตรวจการจ้าง ผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงานและผู้รับเหมาก่อสร้างทุกรายเพื่อประสานงานและแก้ปัญหาต่างๆ ดังกล่าว นอกเหนือจากการประชุมประจำสัปดาห์ระหว่างผู้ควบคุมงานและผู้รับเหมาก่อสร้าง การประชุมนี้ควรจัดให้มีขึ้นตามความจำเป็น แต่อย่างน้อยที่สุดเดือนละ 1 ครั้ง หากงานดำเนินไปเร็วมาก หรือค่อนข้างมีปัญหา ก็อาจถี่ขึ้นถึงสัปดาห์ละครั้งก็ได้และไม่ควรขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอันขาดวาระการประชุมควรเน้นเรื่องการพิจารณาอนุมัติวัสดุ รายงานความคืบหน้าของงานความปลอดภัย ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น และผลการทดสอบวัสดุ ตามที่ได้กล่าวแล้วว่าวัสดุทุกชนิดที่ผู้รับเหมาก่อสร้างจะนำมาใช้จะต้องผ่านการพิจารณาจากผู้ออกแบบ หรือที่ปรึกษาเสียก่อนซึ่งจะให้ความเห็นว่าวัสดุนั้นๆ มีคุณภาพตรงตามที่ระบุไว้ในแบบหรือบทกำหนดหรือไม่แล้วจึงทำบัญชีรายชื่อพร้อมทั้งผลการพิจารณาและนำตัวอย่างเสนอต่อคณะกรรมการตรวจการจ้างในที่ประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป ชิ้นตัวอย่างที่ได้รับการอนุมัติแล้วจะต้องลงหมายเลขกำกับเซ็นชื่อและเก็บรักษาไว้ ณ สถานที่ก่อสร้าง 1 ชุด เพื่อที่ในระหว่างก่อสร้างผู้ควบคุมงานจะได้ตรวจสอบวัสดุต่างๆที่ผู้รับเหมาก่อสร้างใช้ให้ตรงตามตัวอย่างนั้นและให้ส่งตัวอย่างทั้งหมดคืนกับผู้รับเหมาก่อสร้างเมื่อหมดความจำเป็นที่จะต้องเก็บไว้ ในการนี้เมื่อผู้รับเหมาก่อสร้างเสนอวัสดุมาเพื่อขออนุมัติ

     ผู้ควบคุมงานควรจะเป็นผู้ตรวจสอบขั้นแรกเสียก่อน หากเห็นว่าผิดจากข้อกำหนดแน่ๆ ก็ให้ส่งคืนผู้รับเหมาพร้อมทั้งแจ้งเหตุและให้เสนอมาใหม่ ทั้งนี้เพื่อลดระยะเวลากอนุมัติวัสดุให้สั้นลง เพราะหากส่งกลับไปกลับมาจะเสียเวลามากทำให้โครงการเสียหายได้ในกรณีที่ไม่สามารถนำวัสดุหรืออุปกรณ์มาแสดงต่อคณะกรรมการตรวจการจ้างหรือเจ้าของโครงการก่อสร้างได้ เนื่องจากมีขนาดใหญ่ เช่นลิฟท์ หรือ เครื่องจักรกลต่างๆ หรือเป็นสิ่งที่จะต้องขออนุมัติเพื่อทำการสั่งจากต่างประเทศให้นำแคตตาล็อคมาแสดงแทน โดยสถาปนิกหรือวิศวกรผู้รับผิดชอบจะต้องตรวจสอบก่อนว่าวัสดุหรืออุปกรณ์นั้นๆ มีคุณภาพตรงตามที่กำหนดไว้หรือไม่ในกรณีที่กำหนดคุณภาพของวัสดุด้วยคุณสมบัติ เช่น กำหนดคุณภาพของคอนกรีตด้วยกำลังอัดสูงสุดที่อายุ 28 วัน หรือของเหล็กด้วยจุดคลากเป็นต้น จะต้องมีการทดสอบคุณสมบัติดังกล่าวเป็นระยะๆ ตลอดงานก่อสร้างแม้จะได้รับอนุมัติให้ใช้ในขั้นแรกแล้วก็ตามหากปรากฏว่าวัสดุดังกล่าวมีคุณภาพต่ำกว่ากำหนดเมื่อใดให้วิศวกรหรือสถาปนิกผู้รับผิดชอบเสนอวิธีแก้ไขให้คณะกรรมการตรวจการจ้าง หรือเจ้าของโครงการหรือผู้แทนพิจารณาในการตรวจรับงานแต่ละงวด ผู้ควบคุมงานจะต้องเป็นผู้ประเมินผลงานว่าเสร็จจริงตามงวดหรือไม่ ในกรณีที่ตรวจรับงานตามกำหนดเวลา เช่น รายเดือน จะต้องคิดค่าของงานที่ได้ทำไปในระหว่างเดือนนั้นๆ แล้วรายงานให้คณะกรรมการตรวจการจ้าง หรือเจ้าของโครงการเพื่อประกอบการพิจารณารับงาน

หน้าที่ประจำของผู้ควบคุมงาน

หน้าที่ประจำของผู้ควบคุมงานก่อสร้าง

600 400 admin

หน้าที่ประจำของผู้ควบคุมงาน

    ควบคุมดูแลให้การก่อสร้างดำเนินไปตามแบบ ข้อกำหนดและหลักวิชา ด้วยความเรียบร้อยและถูกต้องตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดูแลให้การใช้วัสดุก่อสร้างเป็นไปตามที่ได้รับอนุมัติประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทำรายงานประจำวัน ทำรายงานประจำสัปดาห์ ทำรายงานประจำเดือน ทำรายงานประจำงวด ทำ Progress Chart และแผนภูมิต่างๆ ทำรายงานสรุปผลความก้าวหน้าของที่จำเป็น งานแต่ละเดือนหรือแต่ละงวดตรวจผลการทดสอบคุณภาพวัสดุทางวิศวกรรม เช่น คอนกรีต และเหล็ก หากปรากฏว่าคุณภาพต่ำกว่าที่กำหนด ต้องรีบรายงานวิศวกรผู้รับผิดชอบโดยด่วน ก่อนจะมีการตรวจรับงานจะต้องตรวจสอบว่าผลงานมีปริมาณ และคุณภาพตรงตามงวดหรือไม่นอกจากมีหน้าที่ควบคุมการก่อสร้างให้ถูกต้องตามแบบรูป รายการ ข้อกำหนด และหลักวิชาแล้ว ผู้ควบคุมงานยังจะต้องเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยในหน่วยงานก่อสร้าง ให้ผู้รับเหมาก่อสร้างจัดมาตรการป้องกันอันตรายต่างๆ มิให้เกิดแก่ชีวิตและทรัพย์สินทั้งในเขตก่อสร้างและบริเวณข้างเคียง อีกทั้งต้องดูแลความสะอาด ความเรียบร้อย ตลอดจนสิ่งแวดล้อมเช่นอย่าให้น้ำท่วมบริเวณ หรือสกปรกเต็มไปด้วยฝุ่น และต้องระวังอย่าให้ผู้ที่อาศัยข้างเคียงได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นอันขาดรวบรวมปัญหาและข้อขัดแย้งที่ไม่สามารถจะตกลงกันได้และอุปสรรคต่างๆ เสนอต่อวิศวกร สถาปนิก หรือคณะกรรมการตรวจการจ้างแล้วแต่กรณีในกรณีที่กำหนดให้ผู้รับเหมาทำแผนการทำงาน เช่น CPM จะต้องตรวจสอบอยู่เสมอว่าการทำงานตรงตามเป้าหมายที่เขียนไว้หรือไม่หากปรากฏว่างานล่าช้ากว่ากำหนด จะต้องพยายามหาสาเหตุให้พบเพื่อหาวิธีแก้ไข การไม่เข้าใจหน้าที่ของตนเอง หน้าที่ของผู้ควบคุมงานไว้แล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังมีผู้สับสนกันมากพอสมควร ทำให้เกิดการลักลั่นกัน แม้ในบริษัทหรือหน่วยงานเดียวกันยังเข้าใจไม่เหมือนกัน บางรายทำงานเหมือนคนส่งหนังสือ (Messenger) คือไม่ใช้ความรู้ของตนเองเลย เมื่อมีคำถามจากผู้รับจ้างก่อสร้าง ก็จะทำหน้าที่จัดส่งคำถามนั้นไปยังผู้ออกแบบหรือเจ้าของโครงการไม่ว่าคำถามนั้นจะง่ายเพียงใด ในทางตรงกันข้ามบางรายทำเป็นพหูสูตรไปเลย เมื่อมีคำถามแบบเดียวกันเข้ามาก็ตัดสินใจเอง และตอบคำถามเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเข้าใจ concept ของแบบหรือไม่ก็ตามบางรายเคยมีตัวอย่างผู้ควบคุมงานสั่งแก้แบบเหล็กพื้นจากธรรมดา (Simply Supported Stab) ซึ่งเหล็กจะต้องอยู่ล่าง เป็นพื้นยื่น (Cantilevered Slab) เพราะดูรูปกลับทางแล้วเข้าใจว่าผู้ออกแบบได้ออกแบบเป็นพื้นยื่นสองข้างมาชนกัน จึงเปลี่ยนเป็นเหล็กอยู่ข้างบนเคราะห์ดีที่ผู้ออกแบบมาเห็นทันจึงไม่เกิดอะไรขึ้นอย่างนี้ก็มี เพราะฉะนั้นการกำหนดหน้าที่ให้ชัดเจนเลยค่อนช้างจะลำบาก ผู้ควบคุมงานควรจะใช้ความรู้ทางช่างพอสมควรสิ่งใดที่แน่ใจ 100% ก็สั่งการได้ สิ่งใดที่สงสัยแม้เล็กน้อยก็ควรถามผู้ออกแบบ หรือเจ้าของโครงการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นแล้วแต่กรณี แต่ระวังอย่าให้ เขาว่าได้ว่าทำงานเหมือนคนส่งเอกสารก็แล้วกัน

ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง

เรียนรู้รูปแบบและระเบียบของการก่อสร้างโดยทั่วไป (ตอนสอง)

600 400 admin

ผู้ควบคุมงาน

ในที่นี้ผู้ควบคุมงานหมายถึงผู้แทนผู้ว่าจ้างอาจเป็นบุคคลคนเดียวสำหรับงานขนาดเล็ก หรือกลุ่มบุคคล หรือสำนักงาน หรือบริษัทที่ปรึกษาสำหรับงานขนาดใหญ่ โดยจะเป็นชุดเดียวกับผู้ออกแบบ หรือคนละชุดก็ได้หรืออาจอยู่ในกลุ่มของผู้จัดการก่อสร้าง, CM (Construction Manager) ผู้บริหารโครงการPM (Project Manager) ก็ได้ มีหน้าที่หลักคอยควบคุมดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามรูปแบบข้อกำหนดและหลักวิชานอกจากนั้น จะต้องดูให้งานดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย หากพบอุปสรรคควรร่วมมือกันหาวิธีแก้ไขทันทีเพื่อให้งานคล่องตัว ไม่ใช่รอให้ทำผิดแล้วจึงค่อยจับผิดในภายหลัง ในกรณีเช่นนั้นการแก้ไขกระทำได้ยากและสิ้นค่าใช้จ่ายมากทั้งยังทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆ โดยไม่เกิดประโยชน์ใด และทำให้เกิดปัญหาด้านมนุษยสัมพันธ์ขึ้น ซึ่งย่อมจะไม่เป็นผลดีแก่ทุกๆ ฝ่าย

คุณสมบัติของผู้ควบคุมงาน

ผู้ควบคุมงานควรมีคุณสมบัติดังนี้

ซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพไม่ใช้ความรู้ในทางที่ผิด
ปฏิบัติตามจรรยาบรรณทุกข้อโดยเคร่งครัด
ไม่ใช้อารมณ์ในการปฏิบัติงาน
ให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
มีความรับผิดชอบต่องาน
ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของผู้รับเหมาก่อสร้าง
ประสานงานระหว่างเจ้าของโครงการ  ผู้ออกแบบ และผู้รับเหมาก่อสร้างในระดับหนึ่งเพื่อให้การก่อสร้างดำเนินไปโดยมีอุปสรรคน้อยที่สุด
มีมนุษยสัมพันธ์ดี

สิ่งที่ผู้ควบคุมงานพึงปฏิบัติ

ศึกษาแบบ ข้อกำหนด และสัญญา โดยละเอียดล่วงหน้าก่อนที่งานก่อสร้างนั้นจะเริ่มหากพบว่ามีข้อขัดแย้งกันเองในแบบหรือ กำหนดหรือสงสัยว่าจะมีข้อผิดพลาด จะรีบรายงานต่อผู้ออกแบบเพื่อขอคำวินิจฉัยทันศึกษาค่าความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้อย่างละเอียดทำรายการย่อสำคัญ ๆ ที่จะต้องอ้างชิงบ่อยๆ และย่อแบบส่วนที่กำลังก่อสร้างเอาติดตัวไว้ตลอดเวลา จะสะดวกมากในการตรวจงานหมั่นตรวจวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างว่ามีคุณสมบัติและคุณภาพตรงตามตัวอย่างที่ได้รับอนุมัติแล้วหรือไม่ หากไม่ตรงจะต้องรีบสั่งเปลี่ยน โดยด่วน ไม่ควรปล่อยให้ใช้จนมากแล้วจึงจะสั่งรื้อและถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้น และเห็นว่าไม่สามารถจะรื้อเปลี่ยนได้จะต้องรีบแจ้งวิศวกร หรือ สถาปนิกผู้รับผิดชอบทันทีเพื่อพิจารณาหาวิธีแก้ไข ร่วมมือกับผู้รับเหมาก่อสร้างหามาตรการก่อสร้างที่จะทำให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็วและประหยัดเพื่อให้ตรงตามความต้องการของเจ้าของโครงการ

รูปแบบการก่อสร้าง1

เรียนรู้รูปแบบและระเบียบของการก่อสร้างโดยทั่วไป (ตอนแรก)

600 400 admin

เรียนรู้รูปแบบและระเบียบของการก่อสร้างโดยทั่วไป (ตอนแรก)
   ในงานก่อสร้างทั่วไปจะมีผู้เกี่ยวข้องโดยตรง กับงานอยู่ 5 ฝ่ายคือ เจ้าของโครงการผู้บริหารโครงการหรือที่ปรึกษาผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงานและผู้รับเหมาก่อสร้าง ในที่นี้จะเน้นเรื่องผู้ควบ คุมงานเพียงเรื่องเดียว

1.1 การออกแบบหรือผู้ออกแบบ
     หมายถึงวิศวกร สถาปนิก บริษัทหรือสำนักงานที่ปรึกษา ทำหน้าที่ออกแบบทางสถาปัตยกรรมและหรีอวิศวกรรมสาขาต่างๆจัดทำบทกำหนดหรือรายละเอียดประกอบแบบ ประมาณราคา และให้คำปรึกษาในการประกวดราคาตลอดจนตรวจงานก่อสร้างเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม และให้คำปรึกษาเมื่อเกิดปัญหาใด ๆ ขึ้นในขณะก่อสร้างอย่างไรก็ดี ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่แบบทุกแผ่นจะถูกต้องสมบูรณ์ไม่มีที่ผิดเลย แบบที่ดีจะมีผิดและขัดแย้งกันน้อยที่สุด และเฉพาะส่วนปลีกย่อยเท่านั้น ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องจัดทำแบบสร้างจริง (Asbuiilt Drawing) การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตามที่ผิดจากแบบจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้ออกแบบก่อนทุกครั้ง แต่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนี้ผู้ออกแบบจะกระทำได้ในขอบเขตจำกัด และต้องเกิดผลดีต่อฝ่ายเจ้าของโครงการหรือเป็นการดัดแปลงเพื่อเข้ากับสภาวะแวดล้อมซึ่งแตกต่างจากขณะออกแบบ เช่น ขณะออกแบบบริเวณที่จะก่อสร้างเป็นพื้นที่ราบปราศจากอุปสรรคใด ๆ แต่เมื่อลงมือขุดฐานรากกลับพบท่อประปา หรือ
สาธารณูปโภคอื่นๆ หรือพบว่าสภาพดินแดกต่างกับผลที่ได้จากการเจาะสำรวจเป็นอันมากทำให้ต้องตัดแปลงฐานรากเพื่อให้เหมาะกับสภาวะแวดล้อมเหล่านี้เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะต้องบันทึกเป็น ลายลักษณ์อักษรแล้วส่งสำเนาให้คณะกรรมการตรวจการจ้างทราบและเพื่อทำ Asbuilt Drawing แต่ถ้าหากการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นผลให้ต้องมีการเพิ่มหรือลดวงเงินจะต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการตรวจการจ้างหรือเจ้าของโครงการเสียก่อน โดยเฉพาะถ้าเป็นงานราชการจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามขั้นตอน และระเบียบปฏิบัติทุกประการ นอกจากนั้น ผู้ออกแบบมีหน้าที่ให้ความเห็นในการขออนุมัติใช้วัสดุทุกชนิดที่ระบุในแบบหรือข้อกำหนด ซึ่งผู้รับเหมาเสนอ โดยผ่านการกลั่นกรองจากผู้ควบคุมงานชั้นหนึ่งก่อน เช่น ส่วนผสมคอนกรีตเหล็กเสริม ลิฟต์ สุขภัณฑ์ จนถึง สี กลอนกุญแจ ฯลฯ เพื่อเสนอคณะกรรมการตรวจการจ้างหรือเจ้าของ งานอนุมัติอีกชั้นหนึ่ง

1.2 ผู้บริหารโครงการ
     เป็นหน่วยงานขนาดย่อมถึงใหญ่ มีวิศวกรสาขาต่างๆ สถาปนิก เศรษฐกร ผู้ประมาณราคา ช่างเขียนแบบ ฯลฯ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้เจ้าของโครงการตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้นการก่อสร้างนับตั้งแต่ทำการศึกษาความเป็นไปได้ การคัดเลือกผู้ออกแบบ การทำประมาณราคาเป็นขั้นตอน ให้คำปรึกษาและข้อคิดเห็นแก่ผู้ออกแบบในฐานะที่ปรึกษาของเจ้าของโครงการ ควบคุมค่าก่อสร้างให้อยู่ในวงเงินงบประมาณ ทำการคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างขั้นแรก (Prequalification) จัดทำเอกสารประกวดราคาและเอกสารสัญญาดำเนินการประกวดราคาต่อรองและเซ็นสัญญาในบางครั้งรวมหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้างด้วยนอกจากนั้น ยังเป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รับและจ่ายเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับงานก่อสร้างที่ตนรับผิดชอบอยู่อาจกล่าวได้ว่าทำหน้าที่ทุกชนิดยกเว้นการออกแบบและแก้ไขแบบเท่านั้น ฉะนั้นอาคารจะถูกหรือแพง การก่อสร้างจะออกมาดีหรือไม่ดีผู้บริหารโครงการมีส่วนร่วมอยู่มาก

  • 1
  • 2